จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การทำงานของพงศธร

การทำงานวิเคราะห์ภาพยนตร์ เรื่อง "Precious"





      การทำงานครั้งนี้เป็นการทำงานกลุ่ม โดยมีสมาชิกทั้งหมด 4 คน เริ่มจากการที่ผมหาภาพยนตร์เรื่อง Precious ตาม Internet เพราะว่าเป็นภาพยนตร์ที่เก่าเลยทำให้หายากอยู่พอสมควร ภาพยนตร์ที่หามาได้นั้นเป็นภาษาอังกฤษ แต่ว่ามีไฟล์ซับภาษาไทยมาด้วยเลยช่วยให้เข้าใจเรื่องราวได้ง่ายยิ่งขึ้น

      และเมื่อหาภาพยนตร์ได้แล้ว หลังจากดูหนังเสร็จ เราจึงเริ่มแบ่งงานและทำงานกันตามหัวข้อที่อาจารย์กำหนด โดยมีผมกับเพื่อนในกลุ่มอีกคนช่วยกันสรุปข้อมูลหัวข้อต่างๆเพื่อเตรียมทำ Power-point ไว้นำเสนอ

ซึ่งหัวข้อที่กำหนดให้เราสรุป คือ
      1.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างบุคคล
      2.องค์ประกอบในการจัดการเรียนการสอน
      3.บทบาทของผู้เรียน
      4.บทบาทของผู้สอน
      5.ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน

      และมีเพื่อนอีกคนทำหน้าที่เป็นคนตัดต่อ Video ฉากต่างๆตามหัวข้อที่กำหนด ส่วนคนสุดท้ายก็เป็นคนจัดทำ Power-point เพื่อการนำเสนอ ซึ่งงานต่างๆนี้เราได้แบ่งกันตามความถนัดของแต่ละคน

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำงานนี้

      1.เรียนรู้ถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆที่ครูต้องเจอในความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตจริงได้
      2.ได้ทำงานกันเป็นกลุ่ม แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ฝึกการวางแผน 
      3.เป็นการฝึกภาษาอังกฤษไปในตัวจากการรับชมภาพยนตร์



การเขียน BLOG



      ในการทำบล็อกนั้น เหมือนเป็นงานที่เปิดเผยตัวเองให้คนอื่นที่เข้ามาดูรู้ว่าเราเป็นคนยังไง ซึ่งจะสื่อออกมาจากการเขียนบล็อก โดยการใช้ภาษาที่เป็นของตัวเราเองสื่อถึงผู้ที่เข้ามาอ่าน

     ซึ่งการเขียนบล็อกของผมนั้นเริ่มจากการหาข้อมูลเกี่ยวกับโจทย์ที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นทาง Internet ความรู้ในห้องเรียน คิดเอาเองบ้างต่างๆนานา และที่สำคัญคือการเข้าไปดูของเพื่อน ! เพราะถือว่าเป็นการได้อ่านหาข้อมูลไปในตัว บล็อกคือการแบ่งปันแชร์ความคิดต่างๆกัน  ฮ่าๆๆ

      และพอถึงเวลาในการลงมือทำนั้น ผมจะทำลงบล็อกเลยบ้าง ใส่Photoshopบ้าง ซึ่งแต่ละอย่างก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป อย่างการทำลงบล็อกเลยก็แก้ไขง่ายเวลาเกิดข้อผิดพลาด ซึ่งต่างจากการทำใน Photoshop เพราะมันจะกลายเป็นไฟล์รูปภาพ ถึงจะดูสวยงามกว่า แต่ถ้าผิดพลาดมันต้องทำใหม่เลย 

ประโยชน์ที่ได้รับการจากทำงานนี้

      1.ได้ฝึกคิดวิเคราะห์ให้รอบคอบ เพื่อที่จะง่ายต่อการที่จะสื่อเรื่องราว ข้อมูลต่างๆไปยังผู้ที่เข้ามาอ่าน
      2. ฝึกความรับผิดชอบ ทำงานตรงต่อเวลา
      3. มีการเตรียมความพร้อมก่อนทำงานอยู่เสมอ



วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
สาระการเรียนรู้ที่ 2 ดนตรี เรื่อง "เครื่องดนตรี" (เวลา 3 คาบ)


ความคิดรวบยอด (สาระสำคัญ/แนวคิดสำคัญ)

      เครื่องดนตรีในปัจจุบันมีหลายประเภททั้งของไทยและสากล และแต่ละประเภทต่างทำหน้าที่และให้เสียงที่แตกต่างกันไป 

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง (ปลายทาง/คุณลักษณะ/มาตรฐาน)

      ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของเครื่องดนตรี สามารถฟังเสียงเครื่องดนตรีและบอกประเภทของเครื่องดนตรีได้อย่างถูกต้อง


จุดประสงค์การเรียนรู้ (เชิงพฤติกรรม/นำทาง/ตัวชี้วัด)

ตัวชี้วัด
      ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึกความนึกคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ  ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
จุดประสงค์การเรียนรู้
      1.จำแนกประเภทของเครื่องดนตรีที่เห็นได้
      2.จำแนกประเภทและวิธีการเล่นของเครื่องดนตรีที่ใช้ในเพลงที่ฟังได้

สาระการเรียนรู้ (หัวข้อเนื้อหา)

1.ประเภทของเครื่องดนตรี
      -ประเภทของเครื่องดนตรีไทย
      -ประเภทของเครื่องดนตรีสากล


กิจกรรมการเรียนการสอน (กิจกรรมการเรียนรู้)

1.ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
      1.1 ผู้สอนเล่าประสบการณ์ของตนเองและให้นักเรียนเล่าประสบการณ์ของตัวเองว่าเคยเล่นดนตรีหรือไม่
      1.2 ให้ผู้เรียนดูภาพเครื่องดนตรีจาก Hybrid Tablet  ว่ามีเครื่องดนตรีอะไรบ้าง จากนั้นสุ่มถามนักเรียนเพื่อเป็นการเฉลยคำตอบ

2.ขั้นสอน
      2.1 ผู้สอนและผู้เรียนร่วมสนทนากันเกี่ยวกับประเภทของเครื่องดนตรีไทยและสากลในปัจจุบัน 
      2.2 หลังจากทราบประเภทแล้ว ให้ผู้สอนอธิบายถึงวิธีการเล่นเครื่องดนตรี และให้ผู้เรียนดูคลิปวิดีโอ การแสดงการบรรเลงเพลงทั้งเครื่องดนตรีไทยและสากล เพื่อให้เห็นลักษณะของเครื่องดนตรี และวิธีการเล่น
      2.3 ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม แล้วเลือกเพลงที่ชอบมาศึกษาโดยใช้ Hybrid Tablet พร้อมเตรียมนำเสนอว่าเป็นวงดนตรีไทยหรือสากล มีเครื่องดนตรีชนิดใดบ้าง

3.ขั้นสรุป
      3.1 ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอเพลงที่เลือก พร้อมบอกชนิดของเครื่องดนตรี
      3.2 ให้ผู้เรียนที่ไม่ได้ออกมานำเสนอ เขียนคำตอบลงไปในกระดาษว่ามีเครื่องดนตรีประเภทใดบ้าง


สื่อการเรียนรู้ (รวมทั้งแหล่งค้นคว้าอ้างอิง)

      1.Hybrid Tablet
      2.คลิปวิดีโอจาก www.youtube.com
      3.Projector

การวัดและการประเมินผล

      1.วัดความรู้ความเข้าใจจากการสนทนาปากเปล่า
      2.วัดจากการนำเสนอเพลงที่เลือกมา
      3.วัดจากคำตอบที่เขียนลงไปตอนฟังกลุ่มผู้เรียนอื่นนำเสนอ



วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Hybrid Tablet

นวัตกรรมพันธุ์ผสม...  Hybrid Tablet






        Tablet ที่เรารู้จักกันดีและเห็นในชีวิตประจำวันกันบ่อยๆ เรียกว่า Tablet PC คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่สามารถพกพาได้ และใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงาน ออกแบบให้สามารถทำงานได้ด้วยตัวมันเอง ซึ่ง Tablet PC จะแตกต่าง ไม่เหมือนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ Laptops ตรงที่ไม่มีแป้นพิมพ์ในการใช้งาน แต่จะใช้แป้นพิมพ์เสมือนจริงในการทำงานแทน (ซึ่งแป้นพิมพ์จะปรากฎอยู่บนจอ ใช้การสัมผัสในการพิมพ์) และ Tablet PC ทุกเครื่องจะมีอุปกรณ์ไร้สายสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและระบบเครือข่ายภายใน



 
       ซึ่งสำหรับ "Hybird Tablet" นั้นแตกต่างจาก Tablet ธรรมดาตรงที่สามารถทำให้กลายร่างเป็นคอมพิวเตอร์ Notebook ได้ โดยจะมีส่วนแป้นพิมพ์เพิ่มเข้ามาด้านหลัง สามารถสไลด์ออกมาใช้งานได้ และยังสามารถแยกส่วนออกจากกันได้อีกด้วย



ตัวอย่าง Hybird Tablet



ข้อดี
- สามารถเป็นได้ทั้ง Tablet และ Notebook ในเครื่องเดียว พกพาง่าย
- สาารถเชื่อมต่อ Internetไร้สายได้ อำนวยความสะดวกในการเรียนการสอน
- เป็นสื่อที่ดึงดูดความสนใจของผู้เรียน ยิ่งถ้าให้ผู้เรียนได้ทดลองใช้ ทำให้ไม่เบื่อกับการเรียนการสอน
- เมื่อมีการนำบทเรียนมาใส่ใน Tablet สามารถปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้เด็กได้เรียนรู้โปรแกรมใหม่ๆนอกเหนือจากบทเรียน
-สามารถแก้ปัญหาความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียนได้ดี


ข้อจำกัด
- มีราคาสูงพอสมควร
- เป็นสื่อที่ไม่ได้เจาะจงนำมาใช้กับการเรียนการสอนโดยเฉพาะ ผู้เรียนอาจนำไปใช้ในเรื่องนอกเหนือจากการเรียนการสอน
- อาจจะไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้สอน แต่ไม่เอื้ออำนวยสำหรับผู้เรียนที่จะมี Hybird Tablet กันทุกคน นอกจากทางสถานศึกษาจัดบริการให้

วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Introduce Myself

             สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ผม บอล พงศธร คนทน ปัจจุบันโสด เป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิด เกิดวันที่ 21 มกราคม 2536 ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว จังหวัดกรุงเทพฯ มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ผมเป็นลูกชายคนกลางและคนเดียว พี่กับน้องเป็นผู้หญิงหมด ผมก็เลยไม่ค่อยสนิทกับพี่สักเท่าไหร่ ส่วนน้องก็อายุห่างกันเกือบ 10 ปี ทำให้อยู่ที่บ้านผมก็ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจากับใครมากมายนัก นิสัยส่วนตัวของผมนั้น ผมคิดว่าผมเป็นคนเรียบง่ายนะ แบบยังไงก็ได้อะไรก็ได้  ตลก อัธยาศัยดี ชอบความสนุกสนานมีความสุขเวลาแกล้งคนอื่น รักอิสระและ มีความเป็นตัวของตัวเองสูงพอสมควร อยากทำอะไรก็ทำ แต่ก็คิดอยู่เสมอว่าต้องไม่มีใครเดือดร้อนจากสิ่งที่ผมทำ ผมไม่ค่อยเขินอายเท่าไหร่นะ เวลาที่ต้องแสดงออก เพราะผมเขินอายก็แต่ผู้หญิงที่ผมปลื้ม ฮ่าๆ


ผมไม่เกเรนะครับ!
          ชีวิตช่วงวัยเด็กของผมนั้น ผมว่าเป็นช่วงที่แสนสุขมาก ทุกๆอย่างดำเนินไปด้วยดี ผมเรียนโรงเรียนอนุบาล - ประถมใกล้ๆบ้าน ผมเป็นเด็กเรียบร้อยมาก เพื่อนในกลุ่มมีแต่เด็กผู้ชาย เพราะผมทำตัวไม่ค่อยถูกเวลาอยู่กับเด็กผู้หญิง แบบประมาณว่าเกรงใจเขา ผมตั้งใจเรียนพอสมควรนะ การเรียนก็จัดว่าดี ติดท็อป 3 ของห้องตลอด แต่ชีวิตช่วงนั้นไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นน่าสนใจสักเท่าไหร่ เหมือนเด็กทั่วๆไป เรียน เล่น กลับบ้าน แต่ก็มีความสุขดี และจัดว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมเรียบร้อยที่สุดในชีวิต พูดก็พูดน้อย

           เมื่อจบ ป.6 ผมเลือกเรียนต่อที่โรงเรียนทวีธาภิเศกในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วน ที่ผมเข้าเรียนที่นี่ เพราะผมคิดว่า ไม่มีผู้หญิง เวลาทำอะไรพลาดก็ไม่ค่อยน่าอายมากมาย มีแต่เพื่อนผู้ชายคงสนิทกันดี แต่ผมชอบผู้หญิงนะครับ ฮ่าๆ และโรงเรียนแห่งนี้ได้เปลี่ยนแปลงนิสัยของผมไปอย่างมาก ผมเป็นเด็กสอบเข้ามา ตอน ม.1 ผมอยู่ห้องคิง ม.2 ผมอยู่ห้องควีน และ ม.3 ผมอยู่ห้องธรรมดาๆทั่วไป แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการสุดๆ ฮ่าๆ 



           เมื่อขึ้น ม.ปลาย เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดสำหรับผมตอนนั้น ผมเลือกเรียนสายวิทย์-คณิต เพราะอยากมีทางเลือกมากๆในการเรียนต่อในอนาคต แต่ผมก็เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ แล้วก็ตกวิชานี้นะครับ ฮ่าๆ ในช่วงที่เรียน ม.ปลาย นี้ ผมคิดว่าผมมีความสุขที่สุด เจอเพื่อนที่ดีแบบว่ารักกันจริงๆ เพราะ ม.ปลาย จะไม่มีการย้ายห้อง ทำให้อยู่ด้วยกันตลอด สนิทกันมากจริงๆ แล้วก็เป็นการทำให้นิสัยพูดน้อย เรียบร้อยค่อยๆหายไป เริ่มกล้าแสดงออก ทำอะไรเพี้ยนๆตลกๆกันเป็นประจำ ยิ่งช่วงหลังๆตอน ม.6 ที่ผมสอบตรงติดที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา ซึ่งทางบ้านผมอยากให้เรียนที่นี่มากๆครับ เพราะว่าคุณลุงและคุณป้าประกอบอาชีพครูอยู่ เมื่อสอบตรงติดแล้วก็เลยปล่อยเรื่องการเรียน ไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ ประมาณว่าไปโรงเรียนเหมือนไปเจอเพื่อน เที่ยวเล่นกันหลังเลิกเรียนประมาณนี้ครับ โรงเรียนแห่งนี้ได้สอนและให้อะไรผมเยอะแยะ แต่สิ่งที่ผมไม่ได้เลยก็คือ วิธีการปฏิบัติตัวต่อผู้หญิง ฮ่าๆ 



ความภาคภูมิใจ



         นอกจากผมจะภูมิใจที่สอบตรงติดมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ช่วงก่อนเปิดเทอมนั้น ผมได้รับโอกาสถ่ายงานโฆษณาเปปทีน ซึ่งเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของผมที่สามารถหาเงินได้ด้วยตัวเอง และผมก็มอบให้คุณแม่ไป การได้รับโอกาสครั้งนี้ทำให้ผมอยากจะทำงานด้านนี้เลยไม่ว่าจะหน้ากล้อง หรือเบื้องหลังในการถ่ายทำ

ผลงานชิ้นแรกและอาจเป็นชิ้นสุดท้าย TT (โปรดอย่ากระพริบตาเวลารับชม)




            และเมื่อเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒนั้น นอกจากความภาคภูมิใจในสถาบัน ผมก็ภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของคณะศึกษาศาสตร์ไปประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัย แต่บอกตรงๆนะครับ ผมก็รู้ตัวว่าสู้เขาไม่ไหวหรอก ฮ่าๆ การประกวดนี้เป็นประสบการณ์ที่ดี ได้ฝึกความกล้าแสดงออก และได้เพื่อนต่างคณะเพิ่ม ผมเจอเพื่อนที่ดี ซึ่งต่างจากคำพูดที่หลายๆคนเคยพูดว่า เพื่อนในมหาวิทยาลัย ไม่จริงใจ เหมือนเป็นสังคมแข่งขันเห็นแก่ตัว อะไรประมาณนี้ ซึ่งเพื่อนที่ผมเจอที่นี่นั้นก็ให้ความรู้สึกเหมือนเพื่อนที่ผมสนิทตอน ม.ปลาย คือรักกันดี ช่วยเหลือกัน อาจเพราะตอนปี 1 อยู่ด้วยกันที่องครักษ์ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ผ่านอะไรมาด้วยกันก็พอสมควร แต่กับผู้หญิงผมก็ทำตัวลำบากนิดหน่อย ยิ่งถ้าเป็นคนที่ผมชอบยิ่งทำอะไรไม่ถูกเลย (ปัจจุบันได้รับการแก้ไขบ้างแล้ว)


          ความภาคภูมิใจสุดท้ายในช่วงปี1  ผมได้เป็นตัวแทนไปแข่งที่งานไม้เรียวเกมส์ครั้งที่ 13 จัดที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมได้ตำแหน่งชนะเลิศคู่กับมหาวิทยาลัยศิลปากร ทำให้ปีนี้พิเศษ มีผู้ชาย ชนะเลิศ 2 คน ผู้หญิงอีก1 คน ซึ่งถ้าเอาแค่หน้าตา ผมคิดว่าเขาหล่อกว่านะ แต่ผมก็อาศัยความเป็นตัวของตัวเองและกำลังใจจากเพื่อนๆพี่ๆจนทำสำเร็จ เป็นคืนนึงที่ทำให้คนรู้จักผมขึ้นเยอะและผมคงจดจำตลอดไป

สุดท้ายแล้ว ผมอยากบอกว่าผมไม่เคยรู้สึกว่าคิดผิดหรือเสียใจที่เข้ามาเรียนที่ มศว คณะศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา เพราะที่แห่งนี้ทำให้ผมเจอกับเพื่อนที่ดี รุ่นพี่ที่ดีสนิทกันเหมือนพี่น้องจริงๆ และยังเจออาจารย์ทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือและความสนิทสนมกันเอง จากคนที่ไม่ค่อยคิดเรื่องอนาคตสักเท่าไหร่แบบผม ก็ทำให้เจอสิ่งที่ชอบ นอกจากผู้หญิง ฮ่าๆๆ คือการถ่ายรูป ซึ่งผมอยากทำงานเกี่ยวกับวงการบันเทิงนะ ถ้าผมไม่ได้อยู่หน้ากล้อง ก็อยากจะทำงานเบื้องหลัง แบบที่คิดไว้ในครั้งที่ได้รับโอกาสถ่ายงานโฆษณา