จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Introduce Myself

             สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ผม บอล พงศธร คนทน ปัจจุบันโสด เป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิด เกิดวันที่ 21 มกราคม 2536 ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว จังหวัดกรุงเทพฯ มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ผมเป็นลูกชายคนกลางและคนเดียว พี่กับน้องเป็นผู้หญิงหมด ผมก็เลยไม่ค่อยสนิทกับพี่สักเท่าไหร่ ส่วนน้องก็อายุห่างกันเกือบ 10 ปี ทำให้อยู่ที่บ้านผมก็ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจากับใครมากมายนัก นิสัยส่วนตัวของผมนั้น ผมคิดว่าผมเป็นคนเรียบง่ายนะ แบบยังไงก็ได้อะไรก็ได้  ตลก อัธยาศัยดี ชอบความสนุกสนานมีความสุขเวลาแกล้งคนอื่น รักอิสระและ มีความเป็นตัวของตัวเองสูงพอสมควร อยากทำอะไรก็ทำ แต่ก็คิดอยู่เสมอว่าต้องไม่มีใครเดือดร้อนจากสิ่งที่ผมทำ ผมไม่ค่อยเขินอายเท่าไหร่นะ เวลาที่ต้องแสดงออก เพราะผมเขินอายก็แต่ผู้หญิงที่ผมปลื้ม ฮ่าๆ


ผมไม่เกเรนะครับ!
          ชีวิตช่วงวัยเด็กของผมนั้น ผมว่าเป็นช่วงที่แสนสุขมาก ทุกๆอย่างดำเนินไปด้วยดี ผมเรียนโรงเรียนอนุบาล - ประถมใกล้ๆบ้าน ผมเป็นเด็กเรียบร้อยมาก เพื่อนในกลุ่มมีแต่เด็กผู้ชาย เพราะผมทำตัวไม่ค่อยถูกเวลาอยู่กับเด็กผู้หญิง แบบประมาณว่าเกรงใจเขา ผมตั้งใจเรียนพอสมควรนะ การเรียนก็จัดว่าดี ติดท็อป 3 ของห้องตลอด แต่ชีวิตช่วงนั้นไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นน่าสนใจสักเท่าไหร่ เหมือนเด็กทั่วๆไป เรียน เล่น กลับบ้าน แต่ก็มีความสุขดี และจัดว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมเรียบร้อยที่สุดในชีวิต พูดก็พูดน้อย

           เมื่อจบ ป.6 ผมเลือกเรียนต่อที่โรงเรียนทวีธาภิเศกในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วน ที่ผมเข้าเรียนที่นี่ เพราะผมคิดว่า ไม่มีผู้หญิง เวลาทำอะไรพลาดก็ไม่ค่อยน่าอายมากมาย มีแต่เพื่อนผู้ชายคงสนิทกันดี แต่ผมชอบผู้หญิงนะครับ ฮ่าๆ และโรงเรียนแห่งนี้ได้เปลี่ยนแปลงนิสัยของผมไปอย่างมาก ผมเป็นเด็กสอบเข้ามา ตอน ม.1 ผมอยู่ห้องคิง ม.2 ผมอยู่ห้องควีน และ ม.3 ผมอยู่ห้องธรรมดาๆทั่วไป แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการสุดๆ ฮ่าๆ 



           เมื่อขึ้น ม.ปลาย เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดสำหรับผมตอนนั้น ผมเลือกเรียนสายวิทย์-คณิต เพราะอยากมีทางเลือกมากๆในการเรียนต่อในอนาคต แต่ผมก็เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ แล้วก็ตกวิชานี้นะครับ ฮ่าๆ ในช่วงที่เรียน ม.ปลาย นี้ ผมคิดว่าผมมีความสุขที่สุด เจอเพื่อนที่ดีแบบว่ารักกันจริงๆ เพราะ ม.ปลาย จะไม่มีการย้ายห้อง ทำให้อยู่ด้วยกันตลอด สนิทกันมากจริงๆ แล้วก็เป็นการทำให้นิสัยพูดน้อย เรียบร้อยค่อยๆหายไป เริ่มกล้าแสดงออก ทำอะไรเพี้ยนๆตลกๆกันเป็นประจำ ยิ่งช่วงหลังๆตอน ม.6 ที่ผมสอบตรงติดที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา ซึ่งทางบ้านผมอยากให้เรียนที่นี่มากๆครับ เพราะว่าคุณลุงและคุณป้าประกอบอาชีพครูอยู่ เมื่อสอบตรงติดแล้วก็เลยปล่อยเรื่องการเรียน ไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ ประมาณว่าไปโรงเรียนเหมือนไปเจอเพื่อน เที่ยวเล่นกันหลังเลิกเรียนประมาณนี้ครับ โรงเรียนแห่งนี้ได้สอนและให้อะไรผมเยอะแยะ แต่สิ่งที่ผมไม่ได้เลยก็คือ วิธีการปฏิบัติตัวต่อผู้หญิง ฮ่าๆ 



ความภาคภูมิใจ



         นอกจากผมจะภูมิใจที่สอบตรงติดมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ช่วงก่อนเปิดเทอมนั้น ผมได้รับโอกาสถ่ายงานโฆษณาเปปทีน ซึ่งเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของผมที่สามารถหาเงินได้ด้วยตัวเอง และผมก็มอบให้คุณแม่ไป การได้รับโอกาสครั้งนี้ทำให้ผมอยากจะทำงานด้านนี้เลยไม่ว่าจะหน้ากล้อง หรือเบื้องหลังในการถ่ายทำ

ผลงานชิ้นแรกและอาจเป็นชิ้นสุดท้าย TT (โปรดอย่ากระพริบตาเวลารับชม)




            และเมื่อเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒนั้น นอกจากความภาคภูมิใจในสถาบัน ผมก็ภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของคณะศึกษาศาสตร์ไปประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัย แต่บอกตรงๆนะครับ ผมก็รู้ตัวว่าสู้เขาไม่ไหวหรอก ฮ่าๆ การประกวดนี้เป็นประสบการณ์ที่ดี ได้ฝึกความกล้าแสดงออก และได้เพื่อนต่างคณะเพิ่ม ผมเจอเพื่อนที่ดี ซึ่งต่างจากคำพูดที่หลายๆคนเคยพูดว่า เพื่อนในมหาวิทยาลัย ไม่จริงใจ เหมือนเป็นสังคมแข่งขันเห็นแก่ตัว อะไรประมาณนี้ ซึ่งเพื่อนที่ผมเจอที่นี่นั้นก็ให้ความรู้สึกเหมือนเพื่อนที่ผมสนิทตอน ม.ปลาย คือรักกันดี ช่วยเหลือกัน อาจเพราะตอนปี 1 อยู่ด้วยกันที่องครักษ์ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ผ่านอะไรมาด้วยกันก็พอสมควร แต่กับผู้หญิงผมก็ทำตัวลำบากนิดหน่อย ยิ่งถ้าเป็นคนที่ผมชอบยิ่งทำอะไรไม่ถูกเลย (ปัจจุบันได้รับการแก้ไขบ้างแล้ว)


          ความภาคภูมิใจสุดท้ายในช่วงปี1  ผมได้เป็นตัวแทนไปแข่งที่งานไม้เรียวเกมส์ครั้งที่ 13 จัดที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมได้ตำแหน่งชนะเลิศคู่กับมหาวิทยาลัยศิลปากร ทำให้ปีนี้พิเศษ มีผู้ชาย ชนะเลิศ 2 คน ผู้หญิงอีก1 คน ซึ่งถ้าเอาแค่หน้าตา ผมคิดว่าเขาหล่อกว่านะ แต่ผมก็อาศัยความเป็นตัวของตัวเองและกำลังใจจากเพื่อนๆพี่ๆจนทำสำเร็จ เป็นคืนนึงที่ทำให้คนรู้จักผมขึ้นเยอะและผมคงจดจำตลอดไป

สุดท้ายแล้ว ผมอยากบอกว่าผมไม่เคยรู้สึกว่าคิดผิดหรือเสียใจที่เข้ามาเรียนที่ มศว คณะศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา เพราะที่แห่งนี้ทำให้ผมเจอกับเพื่อนที่ดี รุ่นพี่ที่ดีสนิทกันเหมือนพี่น้องจริงๆ และยังเจออาจารย์ทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือและความสนิทสนมกันเอง จากคนที่ไม่ค่อยคิดเรื่องอนาคตสักเท่าไหร่แบบผม ก็ทำให้เจอสิ่งที่ชอบ นอกจากผู้หญิง ฮ่าๆๆ คือการถ่ายรูป ซึ่งผมอยากทำงานเกี่ยวกับวงการบันเทิงนะ ถ้าผมไม่ได้อยู่หน้ากล้อง ก็อยากจะทำงานเบื้องหลัง แบบที่คิดไว้ในครั้งที่ได้รับโอกาสถ่ายงานโฆษณา